วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วัตถุดิบหลัก ที่ใช้ในการทำขนมอบ(Bakery)...(น้ำตาล)

ได้รู้จักพระเอก(แป้งสาลี)กันไปเแล้วเรามารู้จักนางเอกกันบ้างนะคะ....
นางเอกของเราก็คือ น้องน้ำ เอ๊ย น้องน้ำตาลค่ะ


อาจารย์แนะนำว่า ตำราที่เราใ้ช้ทำขนมที่ศูนยฯ ถ้าในสูตรบอกว่า.....


น้ำตาล(Sugar)  =  น้ำตาลทรายขาวทั่วไปนี่แหละค่ะ
                                              



น้ำตาลทรายแดง(Brown Sugar)  =  น้ำตาลทรายแดงที่ใส่ในเฉาก๊วย หรือที่เค้าเรียกกันว่า โอวทึ้ง ค่ะ
                                         


น้ำตาลทรายป่น (Castor Sugar, Powdered Sugar) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะ คือ แบบผลึก (Crystal Form) และแบบผง (Powder Form)
  • น้ำตาลป่นแบบผลึก (Crystal Form) มีลักษณะและรูปแบบเหมือนน้ำตาลทรายโดยทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่จะมีขนาดที่เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด น้ำตาลป่นแบบผลึกได้มาจากกระบวนการคัดร่อนอีกครั้งจากน้ำตาลทรายขนาดปกติ น้ำตาลชนิดนี้จึงมีราคาแพงกว่าน้ำตาลทรายโดยทั่วไป เหมาะสำหรับการผสมลงในเครื่องดื่ม ด้วยขนาดที่เล็กกว่าทำให้ละลายในน้ำได้เร็วกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป
  • น้ำตาลป่นแบบผง (Powder Form) มีความแตกต่างจากน้ำตาลป่นแบบผลึกเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของรูปร่างและการใช้งาน กล่าวคือ น้ำตาลป่นแบบผง จะเป็นน้ำตาลที่ผ่านการโม่บดเป็นผงละเอียดคล้ายผงแป้ง หากมองด้วยตาเปล่าจะคล้ายน้ำตาลไอซิ่ง (Icing Sugar) เป็นอย่างมาก น้ำตาลป่นชนิดนี้ผลิตเพื่ออุตสาหกรรมเบเกอรี่โดยเฉพาะ ทำหน้าที่เป็นสารให้ความหวานในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ มีความสามารถในการละลายน้ำได้ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำตาลป่นแบบผลึก
ปัญหาที่พบโดยทั่วไปในการทำผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ คือ ผู้ใช้จะไม่ทราบว่าน้ำตาลที่ใส่ไปในะหว่างขั้นตอนการผลิตนั้น ละลายเข้ากันดีกับส่วนผสมอื่นๆหรือไม่ หากน้ำตาลละลายได้ไม่หมด ผลที่ตามมาคือ ระดับความหวานไม่เป็นตามที่กำหนด และถ้ามีน้ำตาลตกค้างเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้ขณะรับประทานผลิตเบเกอรี่ดังกล่าวจะรู้สึกถึงเม็ดน้ำตาลที่ตกค้าง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ผู้ใช้บางส่วนจึงหันไปใช้น้ำตาลป่นแบบผลึกซึ่งหาซื้อได้ง่าย อย่างไรก็ตามน้ำตาลชนิดนี้ก็ยังคงอยู่ในรูปของผลึกน้ำตาล ผู้ใช้ยังคงต้องใช้ความพยายามในการทำละลายอยู่ดี ดังนั้นน้ำตาลป่นแบบผง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ของการแก้ปัญหา
ด้วยคุณสมบัติที่มีขนาดเล็กมากของน้ำตาลป่นแบบผง สามารถละลายน้ำได้ทันทีแม้ในอุณหภูมิห้อง ทำให้น้ำตาลละลายได้หมด ไม่เหลือสิ่งตกค้างในผลิตภัณฑ์ ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่ารสชาติของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จะเป็นไปตามที่กำหนด นอกจากนี้ น้ำตาลป่นแบบผงซึ่งละลายน้ำได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดพลังงานในการผลิตได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามน้ำตาลป่นแบบผง มีความอ่อนไหวต่อความชื้นเป็นอย่างมาก การเก็บรักษาจึงต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และสามารถหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายวัตถุดิบเบเกอรี่


                                                                                                   ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดียค่ะ


    แต่ที่เราในการทำขนมที่ศูนย์ฯ  เราใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดา นำมาตวงให้ได้ปริมาณตามสูตร 
    แล้วนำเอาไปปั่นละเอียด โดยใช้ที่ปั่นอันเล็กอ่ะค่ะ แต่ในท้องตลาดก็มีน้ำตาลป่นสำเร็จรูปขายนะคะ 
    ก็เลือกใช้กันตามสะดวกเลยค่ะ


                                                      
                                                                        




น้ำตาลไอซิ่ง(Icing Sugar) =  น้ำตาลทรายที่ผ่านกระบวนการบดละเอียด ลักษณะเป็นผงสีขาว 
                                              ละเอียดคล้ายแป้ง มีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด ประมาณร้อยละ 3 
                                              ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารป้องกันการจับตัว ในผงน้ำตา
                                              แต่เราไม่ต้องผสมเองนะคะ ซื้อสำเร็จเป็นน้ำตาลไอซิ่งมาใช้ได้เลยค่ะ
                   


น้ำตาลโดนัท(Donut sugar) = น้ำตาลเคลือบหน้าโดนัท (Coating Sugar) 
                                                 มีลักษณะเป็นผงละเอียด สีขาว หอม เย็น ไม่ละลาย ค่ะ
                                       น้ำตาลโดนัท มีคุณสมบัติการใช้งานแตกต่างจากน้ำตาลไอซิ่ง
                                       (Icing Sugar) กล่าวคือน้ำตาลไอซิ่งทำหน้าที่เป็นสารให้ความหวาน
                                       ในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ แต่น้ำตาลโดนัทถูกใช้งานเพื่อตกแต่งหน้าโดนัท
                                      โดยเฉพาะค่ะ อย่าเผลอใช้น้ำตาลไอซิ่งแทนน้ำตาลโดนัทนะคะ  
                                       เพราะไอซิ่งจะโรยไว้ได้ไม่นาน ก็จะละลายกลายเป็นน้ำเชื่อม 
                                       เปียกแฉะค่ะ

                             



  น้ำตาลเคลือบ (Coating Sugar) มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษในหลากหลายชื่อด้วยตามแต่ผู้ผลิตจะเป็นผู้กำหนด อาทิ Coating sugar, Glazing Powder, Dipping Sugar, Honey Dip Sugar, Fondant sugar ซึ่งบางส่วนจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนผลิตได้เองในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผลิตขึ้นเพื่อใช้เฉพาะในกลุ่มเครือข่ายฟาส์ตฟู้ดส์ จึงไม่มีจำหน่ายเป็นการทั่วไป
น้ำตาลเคลือบเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเคลือบ หรือชุบผิวหน้าของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโดนัท น้ำตาลเคลือบสามารถแยกย่อยออกเป็นสองประเภท ได้แก่ น้ำตาลเคลือบแบบใส และน้ำตาลเคลือบแบบหนา
น้ำตาลเคลือบแบบใส มีคุณสมบัติหลักคือ เมื่อเคลือบหน้าผลิตภัณฑ์แล้ว จะยังคงเห็นสีผิวของผลิตภัณฑ์ ช่วยเพิ่มรสชาติ สร้างความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ สำหรับน้ำตาลเคลือบแบบหนา มีคุณสมบัติแตกต่างจากแบบใส กล่าวคือ ใช้เคลือบบนผิวหน้าโดนัท เพื่อสร้างลวดราย และสีสันให้แก่ผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม น้ำตาลเคลือบนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากหาซื้อได้ยาก ราคาแพง และมีขั้นตอนการใช้งานที่ยุ่งยาก                                                     


                                                                                                  ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดียค่ะ




ได้รู้จักประเภทของแป้ง และน้ำตาลกันไปแล้ว ไว้คราวหน้าเรามาทำความรู้จักวัตถุดิบชนิดอื่นๆกันนะคะ


                                                                                                                       
                                                                                                                     ^__^
                                                                                                                  ก้อยเองค่ะ









                                                                             



วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วัตถุดิบหลัก ที่ใช้ในการทำขนมอบ(Bakery)...(แป้งสาลี)

เราก็ได้รู้จักเครื่องไม้เครื่องมือ ในการทำขนมอบกันมาพอสมควรแล้วนะคะ วันนี้เราจะมารู้ทำความจักวัตถุดิบหลักๆ ในการทำขนมอบกันบ้างค่ะ


เรามาเริ่มกันที่ พระเอกของเรากันเลย.....นั่นก็คือ แป้งสาลี หรือ แป้งข้าวสาลี ค่ะ



แป้งสาลี (Wheat Flour)
    ทำจากเมล็ดข้าวสาลี ลักษณะเป็นผงมีสีขาว คุณภาพของแป้งสาลีขึ้นอยู่กับปริมาณโปรตีนในเมล็ดข้าวสาลี ซึ่งทำให้ได้ลักษณะของขนมต่างกัน แป้งสาลียังแบ่งออกเป็นชนิด ต่าง ๆ ตามคุณสมบัติของแป้งคือ



1. แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง (Bread Flour)
    หรือที่เราเรียกทั่วไปว่า "แป้งขนมปัง" นั่นแหละค่ะ
    ทำจากข้าวสาลีชนิดหนัก แป้งชนิดนี้มีโปรตีนสูง 12-14% 
    เนื้อแป้งจะหนัก และหยาบกว่าแป้งสาลีชนิดอื่น สามารถดูดน้ำได้มาก 
    มีความยืดหยุ่น เหนียว เหมาะสำหรับทำขนมปัง หรือขนมที่มีลักษะคล้า้ยขนมปังค่ะ
    สีของแป้งจะออกสีขาวนวล(สีครีม) เราใช้ยีสต์ในการทำให้แป้งขนมปังขึ้นฟู
    มีหลายยี่ห้อนะคะ แต่ที่ศูนย์ฯ ใช้ตราห่านค่ะ

แป้งข้าวสาลีตราหงส์ขาว (ห่าน)แป้งข้าวสาลีตราหงส์ขาว (ห่าน)
แป้งข้าวสาลีที่เหมาะสำหรับทำขนมปัง 

มีปริมาณโปรตีนสูง (13.5-14%)






2. แป้งสาลีอเนกประสงค์(All Purpose Flour)
    ทำจากข้าวสาลีชนิดหนัก และชนิดเบาผสมรวมกัน
 เป็นแป้งสาลีที่มีโปรตีนกลางๆ 10 -11% 
    แป้งมีสีขาวนวล ลักษณะหยาบ แต่น้อยกว่าแป้งขนมปัง มีความเหนียวพอควร 
    เราใช้ ผงฟู  เบคกิ้งโซดา และยีสต์ เป็นตัวทำให้แป้งชนิดนี้ขึ้นฟูค่ะ
    นำไปทำขนมได้หลายอย่าง ทำมัฟฟิน คุกกี้ พาย กระหรี่พัฟ
    เป็นส่วนผสมในเค้ก ใช้ชุบทอด ก็ได้นะคะ อเนกประสงค์สมชื่อเลยจริงๆ 
    มีหลายยี่ห้อเหมือนกัน แต่ที่ศูนย์ฯใช้ ตราว่าว ค่ะ 



แป้งข้าวสาลีตราว่าวแป้งข้าวสาลีตราว่าว
แป้งข้าวสาลีอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งทำขนมและอาหาร 
มีปริมาณโปรตีนปานกลา ง (10.5-11%)




















3. แป้งสาลีพิเศษ ( Special Flour)
    เป็นแป้งสาลีที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ เนื้อเบา ทำออกมาแล้วจะได้ขนมเนื้อเหนียว หนักๆ
    เช่น ซาลาเปา ปุยฝ้าย เค้กบางตัว
    ใช้ผงฟู หรือเบคกิ้งโซดาทำให้ขึ้นฟูค่ะ
    มีหลายยี่ห้อเช่นกัน ที่ศูนย์ใช้ ตราบัวแดง ค่ะ

แป้งข้าวสาลี ตราบัวแดงแป้งข้าวสาลี ตราบัวแดง
แป้งข้าวสาลีชนิดพิเศษ เนื้อเบา ใช้ทำสปันจ์เค้ก ซาลาเปา ฯลฯ มีปริมาณโปรตีนต่ำ (8-8.5 %)



4. แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก (Cake Flour)
    ทำจากข้าวสาลีชนิดเบา มีปริมาณโปรตีนต่ำ 6 - 9 % เนื้อแป้งจะมีสีขาว เนื้อละเอียด
    เนียน น้ำหนักเบา ใช้ทำเค้ก ผสมในคุกกี้
    ใช้ผงฟู หรือเบคกิ้งโซดาทำให้ขึ้นฟูค่ะ
    มีหลายมากมายหลายยี่ห้อ ที่ศูนย์ฯใช้ ตราพัดโบกค่ะ


แป้งข้าวสาลีตราพัดโบกแป้งข้าวสาลีตราพัดโบก
แป้งข้าวสาลีที่เหมาะสำหรับเค้กเนย ชิฟฟ่อนเค้ก 

มีปริมาณโปรตีนต่ำ (8-8.3%)






เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลนะคะ ว่าจะใช้ แป้งชนิดไหน ทำขนมอะไร
เพราะส่วนมาก ในสูตรจะระบุไว้ให้เสร็จสรรพเลยค่ะ  บางสูตรก็ใช้แป้งหลายตัวผสมกันด้วยซ้ำไป
ก็ทำตามสูตรล่ะค่ะ เก่งแล้ว ชำนาญแล้วค่อยดัดแปลง พลิกแพลง เพิ่มเติม เพิ่มนิด ลดหน่อย 
ให้ถูกปากคนกินค่ะ เพราะแต่ละคนก็ชอบ รสชาติไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าให้มีความสุขในการทำ
การหม่ำ ก็พอ....


                                                                                                              ^___^
                                                                                                           ก้อยเองค่ะ






วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำขนมอบ...(เบ็ดเตล็ด)

5. เครื่องมือ เครื่องใช้ เบ็ดเตล็ด
    จำเป็นที่จะต้องมีใช้ในการทำขนมอบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ทั้งหมดพร้อมกันในการทำขนม
    ครั้งนึงนะคะ   เราลองไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

     5.1 แปรงทาเนย
           ทำจากวัสดุหลายอย่าง หลายขนาด เลือกใช้กันได้ตามสบายเลยค่ะ
           ในชั้นเรียนก้อยก็ได้ใช้แล้วค่ะ  ใช้ทาเนยขาวลงบนถาด และพิมพ์อบขนม
           และยังใช้ทาเนย ทาไข่แดง และทานมสด ลงบนขนมที่อบเสร็จแล้วค่ะ              

      5.2 พาย
            มีทั้งที่ทำจากซิลิโคน ยาง และก็พลาสติกค่ะ
            ใช้สำหรับปาด กวาด คลุก ส่วนผสมที่อยู่ในอ่างผสม
            ใช้ปาดวัตถุดิบที่เราตวง ให้เรียบเสมอกับขอบช้อนตวง ถ้วยตวง
            บางที่เราก็ใช้ ตักแป้งด้วยนะคะ
            อาจารย์บอกเคล็ดลับมาว่า "เวลาใช้ปาดขอบอ่าง(ผสม)ให้ใช้ด้านโค้ง เวลาปาดช้อนตวง
            ถ้วยตวง ให้ใช้ด้านตรงค่ะ"  พายนี่ไม่ว่าจะทำขนมอะไรก็ได้ใช้ตล๊อด ตล๊อดเลยค่ะ
                          




     5.3 มีดปาดหน้าเค้ก หรือ สปตูล่า 
           มีหลายขนาดค่ะ   ทำด้วยโลหะแบน ใช้สำหรับป้ายครีมบนตัวเค้ก 
           และปาดให้เรียบเพื่อรอการตกแต่ง บางทีก็ใช้ปาดปากช้อนตวง ถ้วยตวงให้เรียบ 
           ตอนตวงส่วนผสมค่ะ

                                 


     5.4 มีด
           ทุกบ้านก็มีใช้กันอยู่แล้วนะคะ เลือกมาใช้ได้เลยตามความเหมาะสมค่ะ
           ใช้ในการ ตัดหั่นส่วนประกอบต่างๆ และยังใช้กรีดที่ขอบพิมพ์ช่วยให้ขนม(เค้ก)ออกมาจากพิมพ์
           ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

                                                  


    5.5 ที่ร่อนแป้ง
          มีทั้งทีทำจากพลาสติก อลูมิเนียม แล้วก็สแตนเสค่ะ
          อันนี้ก็สำคัญนะคะ เพราะในสูตรขนมจะระบุไ่ว้เลยค่ะ เช่น ร่อนแป้งแล้วตวง ร่อนแป้งพร้อมผงฟู
          ก็ต้องทำตามสูตรเขาล่ะค่ะ  วันก่อนยัง(ยืม)ใช้กรองส่วนผสมของสังขยาก่อนนำไปตั้งเตาเลยค่ะ
                   



    5.6 ที่คลึงแป้ง
          มีทั้งแบบเป็นไม้ เป็นโลหะ ใช้คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบางเรียบค่ะ
          อันนี้ก็ได้ใช้แล้วตอนทำขนมปังค่ะ (ทำจากไม้)

   


  5.7  ที่แซะขนมออกจากถาด
         ใช้แซะขนมออกจากถาด เมื่อขนมสุกออกจากเตาแล้ว 
         และใช้เคลื่อนย้ายขนมจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง  ก็ได้ค่ะ

                                                          


   5.8 ที่คีบขนม
         หน้าตาหลากหลาย และทำจากวัสดุหลายชนิดมาเลยค่ะ 
         ก็ใช้คีบขนมออกจาภาชนะต่างๆ เคลื่อนย้ายขนม
                                                      

   5.9 ตะแกรงวางขนม
         เมื่อขนมสุก และนำออกจากเตาอบแล้ว เราจะนำขนมออกจากถาด ถ้วย หรือแม่พิมพ์
         วางไว้บนตะแกรงเพื่อใช้ขนมเย็นได้เร็วขึ้น และสะดวกในการตกแต่งด้วยค่ะ
         อาจารย์บอกเคล็ดลับว่า "ถ้าไม่รีบนำขนมออกจากถาด ถ้วย หรือพิมพ์ ขนมก็ยังจะได้รับความร้อน
         จากภาชนะนั้นๆอยู่ อาจส่งผลให้สีของขนมเข้มขึ้น หรืออาจทำให้เนื้อขนมเปลียนแปลงไปได้ค่ะ"
                                                                                                                          
          


  5.10 หัวบีบ ขนาดและลวดลายต่างๆ
          ใช้แต่งหน้าเค้ก ให้เป็นลวดลายต่างๆ  บางทีก็นำมาบีบคุกกี้ได้ด้วยนะคะ
          
                                  


5.11 พิมพ์กดคุกกี้
        ก็มีหลายแบบ หลายลายเช่นกันค่ะ
        เมื่อก่อนตอนที่บ้านทำคุกกี้เนยสดขาย แม่ก็ใช้กระบอกกดอย่างนี้และค่ะ  1 ชุดก็มี กระบอก 
        พร้อมลายมาให้อย่างที่เห็น ขนาดซื้อมาสำรองอีกชุด ก็ยังไม่ได้ใช้เลย ใช้แต่อันเก่า 
        ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ค่ะ
        แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่า จะใช้กับคุกกี้ทุกประเภทนะคะ คุกกี้ก็มีหลายแบบ ไว้ค่อยมาเรียนรู้
        เพิ่มเติมกันที่หลังนะคะ
        
                        


พวกถาด พวกพิมพ์อบขนม สรุปให้แล้ว เมื่อคราวก่อน เพราะเห็นว่าสำคัญเลยแยกหัวข้อออกไปค่ะ


นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่ใช้เฉพาะกิจ อื่นๆอีกจิปาถะ เช่น
- ร่ม ใช้เป็นแ่ท่นรับครีมที่บีบออกมาเป็นรูปดอกไม้เวลาแต่งหน้าเค้ก
- แป้นหมุน ใช้สำหรับวางเค้กที่จะแต่งหน้า
- แผ่นโลหะฟันปลา ใช้ทำลายบนหน้าเค้ก ซึ่งบางท่านก็ทำเองจากไพ่ค่ะ
- มีดฟันปลา ใช้เลื่่อยเค้ก และขนมปัง
- ตระกร้อมือ ใช้ตีไข่ และคนส่วนผสมให้เข้ากันด้วยมือ
- แผ่นโลหะหรือพลาสติก สำหรับตัดแป้ง หรือใช้ขูดแป้งที่ติดถาด ติดโต๊ะ
- เทอร์โมมิเตอร์ ใช้คุมอุณหภูมิของเตาอบ ที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้
- พายไม้ สำหรับคนส่วนผสมที่มีความหนืด และใช้คนไส้ขนม

ยังมีอีกเยอะนะคะ ก็ดูจากเวลาที่เราเดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ หรือมุมเบเกอรี่ในห้างสรรพสินค้า จะเห็นว่ามีอุปกรณ์บางอย่างที่เรารู้จักแต่ไม่เคยได้ใช้อีกมากมาย ที่ขำกว่าก็คือ เจ้าอุปกรณ์ที่เราไม่รู้จักว่าคืออะไร และใช้งานอย่างไร ก็ยังมีอีกมากโข อันนี้ก็ต้องสะสมชั่วโมงบินกันเองแล้วล่ะค่ะ


เกือบลืมไป อีกอย่าง ก็คือ พวกภาชนะ ประเภท ถ้วย ชาม แก้ว กาละมัง ค่ะ  
คือเมื่อจะเริ่มทำขนม เราต้องเตรียมวัตถุดิบตามสูตรก่อน เวลาที่เราตวงส่วนผสมตามสูตรเสร็จแล้ว
เราก็จะแยกประเภทของวัตถุดิบใส่ภาชนะพวกนี้เอาไว้ก่อน  แล้วค่อยนำมาผสมกันตามขั้นตอนค่ะ 




ปล.ขออนุญาติ และ ขอขอบคุณ เจ้าของภาพถ่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์ ที่นำมาลงไว้ ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ


ถ้าหลงลืมอะไรก็สะกิดกันด้วยนะคะ     
     
                                                                                                               ^__^


                                                                                                            ก้อยเองค่ะ